วันที่ 12 สิงหาคมนี้ บอกรักแม่แล้ว อย่าลืมรักช้างกันนะครับ เพราะเป็นวันช้างโลกด้วย
ช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองไทย เราคุ้นเคยกับภาพช้างในสังคมและวัฒนธรรมของเรามาอย่างยาวนาน
ช้างบางเชือกมีความสามารถ ได้รับการฝึกให้ทำสิ่งต่าง ๆ ได้ จนถึงให้มีตำแหน่ง มียศ ในสมัยโบราณ
วันนี้เราจะมาดู 6 สิ่งของช้าง ที่บางคนอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนว่า คล้ายมนุษย์เราอย่างไม่น่าเชื่อเลยนะครับ
ช้างมีครอบครัว
เมื่อช้างเกิดมา นอกจากจะได้รับการดูแลจากพ่อแม่ช้างแล้ว ช้างในโขลงก็ช่วยกันดูแลด้วย
หากลูกช้างร้องหรือมีปัญหา ช้างตัวอื่นก็จะรีบเข้ามาดูแลทันที เปรียบเสมือนญาติพี่น้องกันของมนุษย์
ปกติแล้วช้างมีลูกทีละตัว แต่บางครั้งก็อาจมีฝาแฝดเกิดมาได้เหมือนกัน
เมื่อช้างเริ่มโตเต็มวัย ก็จะต้องออกจากโขลงไปหาเลี้ยงตัวเอง และสร้างโขลงขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง
เหมือนเราตอนจบมหาลัยแล้วไปทำงานมีครอบครัว
ช้างใช้งวงเหมือนมือเรา
สำหรับการหยิบจับสิ่งต่าง ๆ นั้น ช้างใช้งวงแทนได้เหมือนมือของเราเลย
ถึงแม้งวงช้างจะดูน่าจะใช้งานยาก และหนักถึง 200 กิโลกรัม แต่ก็มีกล้ามเนื้ออยู่ถึงแสนจุด ทำให้มันสามารถหยิบจับได้ละเอียดถึงขั้นถอนหญ้าทีละต้นก็ยังได้
เวลาช้างดื่มน้ำ ก็ยังใช้งวงในการดูดน้ำขึ้นมา แล้วป้อนใส่ปากด้วย หรือจะใช้รดตัวคล้ายร้อนก็ได้
นอกจากนั้น ช้างบางตัวก็ถนัดขวา บางตัวก็ถนัดซ้า
โดยใช้งาข้างที่ตัวเองถนัดในการจิ้มอาหาร ฉีกเปลือกไม้ใบไม้ ปกป้องตัวเอง และสู้กับช้างพลาย (ตัวผู้) ตัวอื่น
ช้างมีนิ้วเท้าและมีเล็บด้วย
ช้างมีนิ้วเท้าและมีเล็บอยู่ทุกนิ้วด้วย โดยช้างเอเชียมี 5 นิ้วเท้าหน้า และ 4 นิ้วเท้าหลัง ในขณะที่ช้างแอฟริกันมีน้อยกว่ากันข้างละ 1 นิ้ว
ส่วนเล็บช้างนั้นก็งอกเพิ่มอยู่ตลอดชีวิต เช่นเดียวกันกับงาของมัน
สิ่งที่น่าทึ่งอีกอย่างคือ แม้ช้างจะตัวหนักถึง 3-6 ตัน แต่เวลาช้างเดิน ช้างไม่ได้ลงน้ำหนักทั้งเท้า แต่จะใช้รอบ ๆ เท้าเป็นหลัก คือ ก้าวเดินด้วยนิ้วเท้าและจมูกเท้า คล้าย ๆ กับมนุษย์เรา
ช้างรู้จักการดูแลผิว
เมื่อมีเวลาว่างจากการหาอาหาร ช้างจะใช้โคลนเพื่อพอกตัว ซึ่งนอกจากจะทำให้คลายร้อนได้แล้ว ยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว และทำให้ผิวนุ่มขึ้นด้วย
เรียกว่าความจริงแล้ว ช้างรู้จักการทำสปาผิวมาก่อนมนุษย์เสียอีก
แม้ผิวของช้างอาจจะดูเหี่ยวย่นยิ่งกว่าคนแก่อายุนับร้อยก็จริง แต่มันถูกสร้างมาแบบนั้นเพื่อความสามารถในการเก็บความชื้นไว้ไม่ให้ผิวแห้ง
ช้างทักทายกันเสมอ
เวลาเราพบเจอคนอื่น เราก็ทักทายกันด้วยการจับมือ หรือถ้าเป็นเพื่อนก็อาจโบกมือ แตะบ่า แตะตัว หรือสนิทกันอาจกอดกัน
ช้างก็ทักทายแบบนี้เช่นกัน แค่เปลี่ยนจากมือเป็นงวงแทน ส่วนการกอดช้างใช้การพิงกันหรือใช้หัวสัมผัสกัน
นอกจากนั้นช้างยังรู้จักการจีบกันด้วย โดยเริ่มจากแอบเหล่มองก่อนเป็นอย่างแรก ไปจนถึงการจูบ และสร้างครอบครัวกัน
ช้างห่วงใยกันไม่เคยห่าง
เมื่อช้างตัวหนึ่งล้มป่วย ในโขลงก็จะช่วยกันดูแล หยุดพักไม่เดินทางต่อ จนกว่าช้างตัวนั้นจะหายป่วย
เมื่อมาถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต ซึ่งช้างมีอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 70 ปี พอ ๆ กันกับเรา แล้วช้างตัวหนึ่งตายลง ช้างตัวอื่นก็จะเศร้ากันหมด อยู่ไว้อาลัยกันเป็นวัน หาดินมาเพื่อคลุมศพ แล้วค่อยจากไปเงียบ ๆ
จากนั้น เมื่อใดก็ตามที่ช้างเดินผ่านจุดที่ช้างในโขลงเคยตาย ก็จะหยุดยืนสงบนิ่งอยู่นานหลายนาที และใช้งวงสัมผัสโครงกระดูกเป็นการไว้อาลัย
ช้างมีความรู้สึกไม่ได้ต่างไปจากเราเลย ทั้งดีใจ มีความสุข เสียใจ เข้าใจ และปลอบโยนกัน
แต่เรากลับทำให้ช้างเสียใจอยู่ฝ่ายเดียวมาตลอด ด้วยการล่า ทำให้จากจำนวนทั้งหมดนับร้อยล้านตัวเมื่อไม่กี่ศตวรรษก่อน ปัจจุบันมีช้างแอฟริกาเหลืออยู่เพียงประมาณ 400,000 ตัวเท่านั้น
สำหรับช้างเอเชียนั้นน่าเป็นห่วงยิ่งกว่า เพราะเหลือแค่ประมาณ 4 หมื่นตัวในธรรมชาติ นับว่าอยู่ในขั้นเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ (endangered)
เหตุเกิดจากการฆ่าช้างทั้งตัวเพียงเพื่อเอาแค่งา ไปทำเครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์ราคาแพง
ลูกช้างถูกพรากจากครอบครัวของมันไปโดนเฆี่ยนตีเพื่อให้เชื่อฟัง จะได้ใช้งานหนักต่อไปได้
กลายเป็นสัตว์เลี้ยงของคนรวยบ้าง ถูกฝึกให้แสดงโชว์บ้าง เพื่อความสนุกสนานของคน แต่ฝืนธรรมชาติและจิตใจของช้าง
ช้างหลายตัวกลายเป็นแรงงานลากซุง กลับมาทำลายป่าไม้ของมันเองเหมือนตลกร้าย
การทำลายป่าจำนวนมากนี้เอง ทำให้พื้นที่ป่าที่กว้างพอให้ช้างอยู่อาศัยได้หายไปอย่างน่าตกใจ
เมื่ออยู่ไม่ได้ ลูกช้างเกิดใหม่จึงน้อยลง โขลงก็เล็กลงเรื่อย ๆ เสียจนจำนวนช้างลดลงจนใกล้สูญพันธุ์
หากช้างสูญพันธุ์ไปจะเกิดอะไรขึ้น?
ช้างเป็นสัตว์บกที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลกและอยู่เป็นโขลง จึงสามารถควบคุมระบบนิเวศและเป็นตัวบ่งบอกความอุดมสมบูรณ์ของป่าได้
การกินพืชและถ่ายมูล ช่วยแพร่พันธุ์และกระจายพืชต่าง ๆ ให้มีความหลากหลายและสมดุล
เมื่อช้างเดินไปในป่า ก็ช่วยแหวกให้มีทางเดิน เพื่อสัตว์อื่นจะได้ไปมาหาอาหารได้ง่ายขึ้น
เมื่อถึงหน้าแล้ง เวลาช้างหาแหล่งน้ำ ก็ช่วยสร้างทางน้ำใหม่ ให้สัตว์น้อยใหญ่ได้ดับกระหาย
ตอนช้างหาโป่งดินกิน ซึ่งจำเป็นต่อการเสริมแร่ธาตุ การขุดเจอโป่งใหม่ก็ทำให้สัตว์ตัวอื่นได้อานิสงค์ด้วย
ดังนั้น สุขภาพของช้าง ก็คือสุขภาพของสัตว์ต่าง ๆ สุขภาพของป่า สุขภาพของธรรมชาติ สุขภาพของโลกใบนี้ แน่นอนว่ากระทบมาถึงสุขภาพของมนุษย์ด้วย จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวพวกเราเลย
เราได้ทำอินโฟกราฟิกมาให้เข้าใจง่าย ๆ แล้ว อย่าลืมแชร์ให้แม่และคนใกล้ตัวอ่านกันด้วยนะครับ เพราะเมื่อเรามีความสุขในครอบครัว ช้างก็ควรได้รับความสุขในครอบครัวของมันเช่นกัน
เราเชื่อเสมอว่า
การเปลี่ยนอะไรเพียงเล็กน้อยของเราคนหนึ่ง
-ก็สามารถ-
สร้างความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ได้
#WorldElephantDay #ElephantDay2019 #วันแม่2562 #วันแม่แห่งชาติ #วันช้างโลก #Elephant #Deforestation #Forest #Wildlife #Family #Poaching #Ivory #Illegal #Circus #Jewellery #Logging #Conservation #Tourism #TShirtThailand
Comments